เรอัล มาดริด ลุยเข้า 8 ทีม บู๊ อาร์เซน่อล หลังชนะดวลจุดโทษตราหมี – ภาพประกอบ FB – Real Madrid C.F.
เรอัล มาดริด ลุยเข้า 8 ทีม – ผู้เชี่ยวชาญด้าน ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่าง เรอัล มาดริด ยังคงไปได้ต่อ ด้วยแม้ว่าจะแพ้ แอตเลติโก มาดริด ในเวลา 0-1 แต่เมื่อถึงดวลจุดโทษ ก็เบียดชนะได้อย่างฉิวเฉียด 4-2 เกมเมื่อวันพุธที่ 12 มี.ค. ที่ผ่านมา
ดาร์บี้แมตช์นครมาดริด ศึกนี้ เรอัล มาดริด กุมความได้เปรียบเล็กๆ มาจากเกมแรก ที่เปิด ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เบียดชนะมา 2-1 สัปดาห์ก่อน
แต่เกมที่ ริยาดห์ แอร์ เมโตรโปลิตาโน่ เริ่มมาแค่ 28 วินาที ทุกอย่างก็กลับมาเท่ากันแล้ว จากการที่ แอตฯ มาดริด ชิงจังหวะออกนำอย่างรวดเร็ว โรดริโก้ เด ปอล ผ่านจากขวาเข้ากลางลอดขา แฟร์กล็อง เมนดี้ มาถึงเท้า คอเนอร์ กัลลาเกอร์ โฉบเข้าชาร์จเผาขนไม่เหลือ แอตเลติโก นำ 1-0 แบบไม่ให้ตั้งตัว
ตราหมีลุยต่อ นาทีที่ 25 ฮูเลียน อัลวาเรซ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนสับไกเล็งเสาสอง ติโบต์ กูร์กตัวส์ ปัดทิ้งไว้ได้
เจ้าถิ่นลุ้นอีก นาทีที่ 38 จูเลียโน่ ซิเมโอเน่ ได้บอลทางฝั่งขวาเขตโทษ ก่อนจ่ายตามช่องให้ อัลวาเรซ ฮาล์ฟวอลเล่ย์มุมแคบ กูร์กตัวส์ ปัดทิ้งไว้ได้ จังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม เด ปอล เปิดเข้าหัว โฮเซ่ คิมิเนซ โหม่งเฉี่ยวสามเหลี่ยมออกหลัง
ครึ่งหลัง เกมยังเข้มข้นและใส่กันหนักเช่นเดิม นาทีที่ 60 เด ปอล เปิดฟรีคิกทางฝั่งขวามากลางประตู ลองเล่ต์ ขึ้นโหม่งหลุดกรอบแบบได้ลุ้น
ราชันชุดขาว น่าตีเสมอ 1-1 อย่างยิ่ง เมื่อมาได้จุดโทษในนาทีที่ 70 จากจังหวะโต้กลับเร็ว คีลิยัน เอ็มบัปเป้ กระชากพรวดเข้าไปถูก ล็องเล่ต์ ตัดล้มในกรอบ ผู้ตัดสินชี้ทันที แต่ปรากฏว่า วินิซิอุส จูเนียร์ ตะบันข้ามคานออกไปอย่างหมดท่า
เกมแลกกันสนุก นาทีที่ 71 ซิเมโอเน่ ควบบอลมาทางขวา ก่อนซัดหาเสาแรก กูร์กตัวส์ ปัดทิ้งได้ทัน อีก 2 นาที วินิซิอุส ลุยถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนเปิดมาหน้าประตู ลูคัส บาซเกซ โหม่งกดลงพื้นไม่ห่างตัว ยาน โอบลัค
นาทีสุดท้าย มาร์กอส ยอเรนเต้ จ่ายบอลให้ อังเคล กอร์เรอา เกี่ยวบอลหนี อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ทางฝั่งขวาเขตโทษ ก่อนกลับตัวยิงเหินข้ามคานแบบได้เสียว
ครบ 90 นาที แอตเลติโก มาดริด ชนะ 1-0 ต้องต่อเวลาพิเศษ
เช่นเดียวกับครบ 120 นาที ทำอะไรเพิ่มไม่ได้ ต้องดวลจุดโทษตัดสิน
การดวลเป้ายังมีดราม่าเกิดขึ้น เมื่อ ฮูเลียน อัลวาเรซ ยิงเข้าประตูไปได้แล้ว แต่ VAR ฟ้องว่าเป็นการโดนบอล 2 จังหวะ จากการที่ดาวยิงตราหมีลื่นล้มพอดีระหว่างซัด ทำให้ริบประตูย้อนหลัง
จากนั้น มาร์กอส ยอเรนเต้ ยิงชนคาน ส่งผลให้แม้ว่า ลูคัส บาซเกซ จะยิงไม่เข้าเหมือนกัน แต่มือสังหารเบอร์สุดท้าย อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ยังยิงผ่านมือ ยาน โอบลัค เข้าไปได้อย่างหวาดเสียว ปลิ้นเข้าประตูแบบเกือบติดเซฟ ส่งผลให้ เรอัล มาดริด ชนะดวลเป้า 4-2
เรอัล มาดริด เข้ารอบไปพบกับ อาร์เซน่อล ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งจะเตะกันช่วงเดือน เม.ย.
เสือเหลือง มาแรงฮึดแซงสยบ ลีลล์ 2-1
ส่วนอีกคู่ของ ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่ลงเล่นเร็วสุดของวัน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ บุกเยือน ลีลล์ ที่ฝรั่งเศส หลังจากนัดแรกเสมอกันมา 1-1 ที่เยอรมนี
เกมที่ ดีแคทลอน อารีน่า เล่นมาได้แค่ 5 นาที ลีลล์ ออกนำเร็ว 1-0 จากจังหวะที่ อิสไมลี่ กระชากขึ้นมาทางซ้ายก่อนเปิดเรียดเข้ากลางให้ โจนาธาน เดวิด ตวัดยิงด้วยเท้าซ้ายตามน้ำ บอลไปตรงตัว เกรกอร์ โคเบล แต่นายด่านเสือเหลืองกลับก้มรับไม่ทัน บอลลอดขาเข้าประตูไป
ดอร์ทมุนด์ เกือบตีเสมอได้ในนาทีที่ 19 จากลูกยิงในเขตโทษด้านซ้ายของ ยูเลี่ยน รีเยอร์สัน แต่ ลูก้าส์ เชวาลิเย่ร์ ยังซูเปอร์เซฟออกหลังไปได้
นาทีที่ 45+1 ทีมเยือนเกือบที่จะได้คืนอีกครั้ง ทว่าลูกโหม่งของ ปาสกาล โกรสส์ ดันไปชนคานอย่างน่าเสียดาย
แต่ครึ่งหลัง ดอร์ทมุนด์ มาตีเสมอ 1-1 จากจุดโทษ ในนาที 54 เมื่อ โธมัส มูนิเย่ร์ วิ่งชนแซร์อู กีราสซี่ เต็มๆ จนเสียจุดโทษ และเป็น เอ็มเร่ ชาน รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด
นาทีที่ 65 กลายเป็นทีมเยือน ดอร์ทมุนด์ พลิกแซงนำ 2-1 จากความยอดเยี่ยมของ มักซิมิเลี่ยน ไบเออร์ ที่คล้องบอลเข้าเท้าขวาในจุดอันตราย แล้วซัดเต็มแรงส่งบอลพุ่งเสียบเสาไกลอย่างยอดเยี่ยม
แม้หลังจากนั้น ลีลล์ จะพยายามลุยแหลก แต่ก็สร้างโอกาสจะแจ้งไม่ได้มากพอเมื่อ ดอร์ทมุนด์ ถอยลงตั้งกำแพงเล่นเกมรับเต็มอัตรา
จบเกม ดอร์ทมุนด์ บุกชนะ ลีลล์ 2-1 รวมผลสองนัดเป็น ดอร์ทมุนด์ ที่ชนะ 3-2 ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ ชปล. ไปพบกับ บาร์เซโลน่า
ติดตามการแข่งขัน ฟุตบอลวันนี้ วิเคราะห์สถานการณ์ พรีเมียร์ลีก และเปลี่ยนการวิเคราะห์การแข่งขันที่แม่นยำของคุณ ให้กลายเป็นรายได้จริงกับ 12BET! เรียนรู้เพิ่มเติม >> 12BET.com