ลิเวอร์พูล แพ้จุดโทษ ปารีสฯ ตกรอบ 16 ทีม แชมเปี้ยนส์ ลีก

ลิเวอร์พูล แพ้จุดโทษ ปารีสฯ : ว่าที่แชมป์ พรีเมียร์ลีก และแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบลีกเฟส อย่าง ลิเวอร์พูล ไปไม่รอดจนได้เมื่อดันถูกจับเจอของแข็งแรงจัดอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง โดยแพ้คาบ้านในเลก 2 ด้วยสกอร์ 0-1 ในช่วง 90 นาที จนต้องต่อเวลาและชี้ขาดด้วยการดวลจุดโทษ ผลเป็น หงส์แดง แพ้ 1-4

ผลบอล ลิเวอร์พูล ในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2024/25 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกสอง ที่สนามแอนฟิลด์ เกิดขึ้นหลังจากที่เลกแรก ลิเวอร์พูล บุกไปเอาชนะถึง ปารีส ได้อย่างเซอร์ไพรส์ 1-0 ในเกมที่พวกเขายิงตรงกรอบ 1 ครั้ง ส่วนเจ้าถิ่น เปแอสเช สร้างโอกาสยิงได้ร่วม 30 ครั้ง แถมมียิงเข้าแล้วโดนริบคืน

นัดนี้ เริ่มมาเพียง 12 นาทีแรกเป็นทาง เปแอสเช ที่ออกนำ 1-0 แบร๊ดลี่ย์ บาร์โคล่า ผ่านบอลจากขวาเข้าเขตโทษ อิบราฮิมา โกนาเต้ ผวาสกัดไม่ดีกลายเป็นบอลผ่าน อลิสซอน เบ็คเกอร์ และหยุดนิ่งให้ อุสมัน เดมเบเล่ ตามไปยิงจ่อๆ ตุงตาข่าย

นาที 16 ลิเวอร์พูล มีโอกาสบ้างจากคู่เซนเตอร์ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ จ่ายบอลให้ อิบราฮิมา โกนาเต้ ซัดจากหน้าเขตโทษ บอลเข้ากรอบแต่ว่าไม่ผ่านมือ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า

อีกไม่ถึงนาทีถัดมา เปแอสเช เกือบได้ลูกสอง ควิช่า ควารัตสเคเลีย ไหลบอลเข้าข่องให้ บาร์โคล่า หลุดเข้าไปซัดในเขตโทษ ไม่ผ่าน อลิสซอน เช่นกัน

ทีมเยือนมีโอกาสจะแจ้งอีกครั้งในนาที 35 อุสมัน เดมเบเล่ ได้บอลฝั่งขวาก่อนบรรจงไหลมากลางประตูให้ ควิช่า ควารัตสเคเลีย ปั่นด้วยขวาเน้นๆ ทว่าบอลแฉลบ ไรอัน กราเฟนแบร์ก จนหลุดกรอบนิดเดียว

ครึ่งหลัง เกมของ ลิเวอร์พูล ดูดีขึ้นมา และในนาที 53 ก็ได้เฮหลังการเข้าทำเซ็ตใหญ่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กดติดเซฟ ดอนนารุมม่า บอลไม่ตาย เทรนท์ ได้ยิงซ้ำไปชนเสา ก่อนที่บอลจะถูกตบกลับมาย้ำอีกให้ โดมินิก โซบอสซ์ไล ซัดเข้าประตูใม่เหลือ กระนั้นก็เป็นเฮเก้อ เมื่อผู้ตัดสินย้อนไปเป่าล้ำหน้า หลุยส์ ดิอาซ ตั้งแต่บอลแรก

ลิเวอร์พูล เกือบได้อีกครั้งในนาที 62 อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เปิดเตะมุมฝั่งซ้ายเขตโทษ ดอนนารุมม่า ปัดบอลเลยไปเสาไกล ซาลาห์ ยืนซัดเน้นๆ กะเบียดเสา ทว่า ควารัตสเคเลีย หวดทิ้งหวุดหวิดก่อนบอลข้ามเส้น

เช่นเดียวกับนาที 82 จากฟรีคิกเยื้องทางซ้าย แอนดี้ โรเบิร์ตสัน เปิดโด่งเข้าเขตโทษไปเสาไกล จาเรลล์ ควอนซาห์ โขกย้อนกลับมาชนเสาแรกอย่างจัง

หงส์แดงลุยได้จะแจ้งมากกว่าในช่วงเวลาที่เหลือ แต่ก็ไม่สามารถยิงประตูตีเสมอได้ ทำให้จบ 90 นาที เป็น เปแอสเช ชนะ 1-0 รวมสองนัดเสมอ 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษ

ช่วงเวลาพิเศษ เปแอสเช มีโอกาสใกล้เคียงมากกว่าทั้งจากลูกโหม่งของ เบรัลโด้ ที่ถากเสา รวมถึงลูกพลิกยิงในเขตโทษของ เดซิเร่ ดูเอ้ ที่ก็หลุดกรอบไม่ถึงคืบ

นาที 109 เปแอสเช น่าได้อย่างยิ่ง เดมเบเล่ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนเอี้ยวปั่นด้วยขวา อลิสซอน ยังงัดซูเปอร์เซฟปัดปลายนิ้วช่วยหงส์แดงเอาไว้ได้อีก

สุดท้ายครบ 120 นาทีไม่มียิงเพิ่ม ต้องชี้ขาดด้วยการดวลจุดโทษตัดสิน

ปรากฏว่า เปแอสเช ยิงก่อน และยิงเข้าหมดทั้ง วิตินญ่า, กอนซาโล่ รามอส, อุสมัน เดมเบเล่ และ เดซิเร่ ดูเอ้ ส่วนทาง ลิเวอร์พูล มี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงเข้าคนเดียว ส่วน ดาร์วิน นูนเยซ กับ เคอร์ติส โจนส์ กดติดเซฟ ดอนนารุมม่า ทั้งสอง

เกมจึงจบที่ เปแอสเช ชนะจุดโทษ 4-1 ได้ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปรอพบผู้ชนะระหว่าง แอสตัน วิลล่า กับ คลับ บรูช ซึ่งก็มีโอกาสสูงจะเป็น แอสตัน วิลล่า หลังจากทีมสิงห์ผงาดชนะเกมแรกมาถึง 3-1 นอกบ้าน

ด้านอีก 2 มหาอำนาจ บาร์เซโลน่า และ บาเยิร์น มิวนิค ก็ไม่พลาดทะลุเข้ารอบ 8 ทีม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เช่นเดียวกัน

บาร์ซ่า ลงเล่นเป็นคู่เร็วสุดของวัน เปิดบ้านต้อน เบนฟิก้า 3-1 ราฟินญ่า ซัดสองตุง อีกลูก ลามีน ยามัล ยิงสวยๆ เข้าไป

เจ้าบุญทุ่ม ชนะสกอร์รวม 4-1 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีม UCL ไปรอเจอผู้ชนะคู่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ – ลีลล์

 ส่วนทาง บาเยิร์น มิวนิค นัดแรกเปิดบ้านชนะเพื่อนร่วมลีก บุนเดสลีกา อย่าง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาก่อนแล้ว 3-0 ทำให้การไปเยือนเกมนี้ที่ ไบ อารีน่า สามารถเตะได้อย่างไร้ความกดดัน

สุดท้าย บาเยิร์น ก็บวกไปอีก 2-0 จากการยิงครึ่งหลังของ แฮร์รี่ เคน น.52 และ อัลฟอนโซ่ เดวิส น.71

เสือใต้ ชนะขาดในสกอร์รวม 5-0 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมไปพบกับ อินเตอร์ มิลาน

ส่วนอีกคู่ อินเตอร์ มิลาน ยังคงย้ำแผลเอาชนะ เฟเยนูร์ด ร็อตเตอร์ดัม จากเนเธอร์แลนด์ ได้อีก 2-1 จนเข้ารอบอย่างไม่ลำบากยากเย็นนัก

งูใหญ่ ออกไปชนะเกมแรกมาก่อนแล้ว 2-0 จากประตูของ มาร์คุส ตูราม กับ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ในสัปดาห์ที่แล้ว

มาเมื่อวันอังคาร ยังคงเป็น มาร์คุส ตูราม ที่ยิงสวยๆ ส่องเสียบตาข่ายให้ อินเตอร์ นำ 1-0 ในนาทีที่ 8

จากนั้นแม้ในช่วงท้ายครึ่งหลัง ฮาคาน ชาลาโนลู จะมาทำพลาดเสียจุดโทษ และเสียประตูตีเสมอจากการยิงของ ยาคุบ โมเดอร์ น.42

แต่ก็เป็น ฮาคาน ชาลาโนลู นั่นเองที่แก้ตัว สังหารประตูชัย 2-1 ด้วยจุดโทษตอนต้นครึ่งหลัง น.51

ผล อินเตอร์ ชนะเกมนี้ 2-1 และผ่านเข้ารอบ 8 ทีม UCL ด้วยสกอร์รวม 4-1 โดยจะไปเจอกับ บาเยิร์น มิวนิค ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย