ญี่ปุ่น ตีตั๋ว ฟุตบอลโลก 2026 ทีมแรก หลังกด บาห์เรน 2-0

ญี่ปุ่น ตีตั๋ว ฟุตบอลโลก 2026 ทีมแรก – ซามูไรสีน้ำเงิน ทีมชาติญี่ปุ่น กลายเป็นชาติแรกที่การันตีการผ่านเข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2026 นอกเหนือจาก 3 ประเทศเจ้าภาพ ภายหลังสยบ บาห์เรน 2-0 เกมเมื่อวันพฤหัสบดี จนแต้มขาดเป็นที่เรียบร้อย

ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย มาถึงช่วงท้ายๆ ของรอบ 3 แล้ว และ ญี่ปุ่น ทำได้ดีมาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ ลงสนาม 6 นัดชนะได้ถึง 5 อยู่ในจุดที่ดีต่อการลิ่วเข้ารอบ

เกมเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่ง ญี่ปุ่น เปิด ไซตามะ สเตเดี้ยม 2002 รับมือ บาห์เรน เป็นเกมที่ 7 ของกลุ่มซี กุนซือ ฮาจิเมะ โมริยาสุ จัด 11 คนแรกที่เป็นตัวเล่นลีกยุโรปล้วนๆ นำโดย ทาเคฟุสะ คุโบะ, คาโอรุ มิโตมะ, ทาคุมิ มินามิโนะ, อายาเสะ อุเอดะ, วาตารุ เอ็นโด และ โค อิตาคุระ

เกมครึ่งแรกยังเสมอ 0-0 ในรูปเกมที่ยังคู่คี่สูสี และไม่ค่อยมีจังหวะลุ้นสกอร์กันมากนัก โดยเฉพาะเจ้าถิ่นที่ครองบอลได้มากกว่า แต่ยังเจาะหลังบ้านผู้มาเยือนไม่เข้า

เข้าครึ่งหลัง ญี่ปุ่น ขยับนำ 1-0 จนได้ ทาเคฟุสะ คุโบะ จ่ายเนียนๆ ทะลุช่องให้ตัวสำรอง ไดจิ คามาดะ ตวัดยิงผ่านนายด่านทีมเยือนจมตาข่าย เบิกสกอร์นำในนาที 66

ก่อนหมดเวลา 3 นาที ญี่ปุ่น หนีห่าง 2-0 จากเตะมุมสั้นทางซ้าย บอลถึง ทาเคฟุสะ คุโบะ ลากเข้าในแล้วหลอกยิงเสาแรกตุงตาข่ายโดยที่นายทวาร เอบราฮิม ลัตฟัลลาห์ หลงเหลี่ยมเข้าอย่างจัง

จบเกม ญี่ปุ่น ชนะไม่ลำบาก 2-0 เป็นการชนะ 6 จาก 7 เกมที่ลงสนาม

ผลนี้ยังทำให้ ญี่ปุ่น ได้ฉลองใหญ่รับตั๋ว ฟุตบอลโลก 2026 รอบสุดท้าย เรียบร้อยแล้ว จากการยืนจ่าฝูงกลุ่มซี มี 19 คะแนน (ชนะ 6 เสมอ 1 ไม่แพ้ใคร) ในระบบที่คัดเอาอันดับ 1 และ 2 ของกลุ่มเข้ารอบทันที ส่วนอันดับ 3 และ 4 ไปต่อในการคัดเลือกรอบ 4

ทั้งนี้ ฟุตบอลโลก 2026 จะเป็นครั้งแรกที่มีเจ้าภาพรวมถึง 3 ประเทศ คือ แคนาดา, เม็กซิโก และ สหรัฐอเมริกา ซึ่งถัดจาก 3 เจ้าภาพนี่แล้ว ก็เป็น ญี่ปุ่น ที่ยืนยันการเข้ารอบสุดท้ายได้เป็นทีมแรกสุด

อีกคู่ของกลุ่มเดียวกัน อินโดนีเซีย เสียหน้าครั้งใหญ่ เมื่อมีการเปลี่ยนตัวกุนซือเป็น แพทริค ไคลเวิร์ต พร้อมตั้งความหวังจะไป ฟุตบอลโลก 2026 ให้ได้ ปรากฏออกไปแพ้ ออสเตรเลีย ยับเยิน 1-5

อินโดนีเซีย ควรเป็นฝ่ายออกนำก่อน เมื่อมาได้จุดโทษตั้งแต่เนิ่นๆ ในนาทีที่ 8 แต่ เควิน ดิคส์ กองหลังจาก เอฟซี โคเปนเฮเก้น ตะบันไปกระแทกเสาประตูดังโครม

เมื่อไม่ได้ก็เสียเลย และเสียแบบไปยาวด้วย ออสเตรเลีย นำ 1-0 จากจุดโทษเช่นกัน ซึ่ง มาร์ติน บอยล์ ยิงเข้าไปไม่พลาด ในนาทีที่ 18

สองนาทีให้หลัง สกอร์ขยับขึ้น 2-0 จากการสังหารของ นิชาน เวลูพิลเลย์

ตามด้วย 3-0 ในนาที 34 จังหวะสอดเข้าทำจากแถวสองของ แจ๊คสัน เออร์ไวน์

ครึ่งหลังถึงนาที 61 สกอร์ไปยาว 4-0 ในนาที 61 เป็น ลูอิส มิลเลอร์ เช็คบิลผ่าน มาร์เทน ปาเอส ไม่เหลือ

อินโดฯ ยังฮึดตีไข่แตก 1-4 ในนาที 78 จากการยิงเสียบเสาของ โอเล่ โรเมนี่ กองหน้าจาก อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด

แต่ช่วงท้าย นาที 90 พอดี สกอร์ก็กลายเป็น 5-1 จากเตะมุมสาดเข้าใน แจ๊คสัน เออร์ไวน์  ทิ่มโขกสบายๆ เข้าประตูไป ปิดเกมกำชัยให้ทัพจิงโจ้ 5-1

อีกเกมของกลุ่มเดียวกันนี้ ซาอุฯ เปิดบ้านเชือด จีน 1-0 จากการยิงของ ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี่ น.50 ส่งผลให้หลังจากผ่าน 7 เกมเท่ากันทั้งหมด ญี่ปุ่น มี 19 แต้ม (เข้ารอบแล้ว) ตามด้วย ออสเตรเลีย 10, ซาอุดีอาระเบีย 9, อินโดนีเซีย 6, บาห์เรน 6 และ จีน 6 แต้ม โดยเหลือโปรแกรมอีก 3 นัดสุดท้าย

ด้านกลุ่มบี ซึ่งลงเล่นวานนี้เช่นกัน เกาหลีใต้ ทำได้แค่เปิดบ้านเสมอ โอมาน 1-1 ฮวาง ฮี-ชาน ยิงนำ น.41 ก่อนทีมเยือนตี น.80 จาก อาลี อัล-บูไซดี้

อิรัก เสมอ คูเวต 2-2 และ จอร์แดน ชนะ ปาเลสไตน์ 3-1

สถานการณ์กลุ่มบี หลังผ่าน 7 นัด เกาหลีใต้ นำจ่าฝูง มี 15 คะแนน แต่ยังไม่ชัวร์เข้ารอบสุดท้าย เมื่อมี จอร์แเดน กับ อิรัก ตามมาโดยมี 12 แต้ม ส่วน โอมาน 7, คูเวต 5 และ ปาเลสไตน์ 3

ขณะที่กลุ่มเอ กาตาร์ เปิดโดฮายิงถล่ม เกาหลีเหนือ 5-1 ด้วยการทำประตูแบบไม่ซ้ำหน้า พร้อมกันนั้น อุซเบกิสถาน ชนะ คีร์กีซสถาน 1-0 และ อิหร่าน ชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) 2-0

กลุ่มเอหลังผ่าน 7 นัด อิหร่าน โอกาสสูงมากในการเข้ารอบเป็นทีมที่ 2 เมื่อตอนนี้มี 19 แต้ม ตามด้วย อุซเบกิสถาน 16, ยูเออี 10, กาตาร์ 10,  คีร์กีซสถาน 3 และ เกาหลีเหนือ 2 คะแนน